ไขข้อสงสัย ประกันชั้น 3 เหมาะกับใคร น่าสนใจแค่ไหน มาดูกัน
หากคุณคือเจ้าของรถที่ใช้งานมานาน หรือเป็นคนที่ขับรถจนเชี่ยวชาญ และกำลังมองหาวิธีประหยัดค่าใช้จ่าย บอกเลยว่าการซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง ด้วยเบี้ยประกันที่ราคาย่อมเยา มาพร้อมกับความคุ้มครองที่คุ้มค่า ตอบโจทย์คนที่ชำนาญในการขับขี่ เรามาดูกันว่า ประกันชั้น 3 มีข้อดีที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
ประกันชั้น 3 คืออะไร
ประกันรถยนต์ชั้น 3 คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยความคุ้มครองหลัก ๆ ของประกันรถยนต์ชั้น 3 ได้แก่
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอกด้วย
- คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
สรุปข้อดีที่น่าสนใจของประกันชั้น 3
- มีเบี้ยประกันที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ
- เหมาะสำหรับรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี
- เหมาะสำหรับผู้ที่ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และมั่นใจในทักษะการขับขี่ของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็มีข้อจำกัดบางประการ ดังนี้
- ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของตนเอง หากเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถ
- ไม่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกัน (ตัวเราเอง) และผู้โดยสารของเราที่นั่งมาด้วย
- ไม่คุ้มครองในกรณี สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
โดยรวมแล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 3 ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด แต่ควรพิจารณาข้อจำกัดต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
ประกันชั้น 3 เหมาะกับใครบ้าง
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะดังนี้
- มีรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี
- ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และมั่นใจในทักษะการขับขี่ของตนเอง
- มีงบประมาณจำกัด และต้องการเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด
สรุปสิ่งที่ควรพิจารณา ในการซื้อประกันชั้น 3
- พิจารณาเบี้ยประกันเป็นหลัก หากมีงบประมาณจำกัด ควรเลือกซื้อประกันชั้น 3 ที่มีเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด
- พิจารณาความคุ้มครองที่ต้องการ หากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม ควรเลือกซื้อประกันชั้น 3 ที่มีแผนความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น แผนความคุ้มครองสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- พิจารณาประวัติการขับขี่ของตนเอง หากมีประวัติการขับขี่ที่ดี อาจเลือกซื้อประกันชั้น 3 ที่มีเงื่อนไขผ่อนผัน เช่น เงื่อนไขในการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก
โดยสรุปแล้ว ประกันชั้น 3 เป็นประกันที่มีเบี้ยราคาประหยัด มาพร้อมกับความคุ้มครองหลัก ๆ ที่เหมาะกับคนที่ชำนาญในการขับขี่ และมีรถที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน ซึ่งเราก็สามารถเลือกแผนความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ เพื่อให้คุ้มครองได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น และที่สำคัญก็คือการเปรียบเทียบประกันจากบริษัทหลาย ๆ เจ้า เพื่อหาเจ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ และมาพร้อมกับการบริการที่ดี ซึ่งจะช่วยให้เราจ่ายค่าเบี้ยประกันได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
Comments are closed.