Thai Buz

อัปเดตการทำ SEO ขั้นพื้นฐานในปี 2023 มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

การทำ SEO พื้นฐานเป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นในการปรับแต่ง และปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้เข้ากับเครื่องมือค้นหาเพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏขึ้นในผลการค้นหาออร์แกนิก (Organic Search Results) ในบทความนี้จะพามาดูขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญในการทำ SEO กันว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย

  1. การค้นคำสำคัญ (Keyword Research)

วิเคราะห์และเลือกคีย์เวิร์ดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาที่ตรงกับธุรกิจหรือบริการ จะทำให้มีโอกาสสูงในการให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมในการค้นหา

  1. การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ (Website Structure)

สร้างโครงสร้างเว็บไซต์ที่เข้าใจง่าย และมีประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยใช้ URL ที่เป็นมาตรฐานและโครงสร้างลิงก์ภายในที่สามารถใช้งานได้ง่าย

  1. การเขียนเนื้อหาคุณภาพ (Quality Content)

สร้างเนื้อหาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน โดยให้คีย์เวิร์ดปรากฏอยู่ในเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติ และมีโครงสร้างที่ชัดเจน

  1. การปรับแต่ง On-Page SEO

ปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้ตรงกับกฎของ Search Engine รวมถึงการเพิ่มคีย์เวิร์ดในเนื้อหา การใช้แท็กต่างๆ (เช่น Title tags, Meta descriptions, Heading tags) และการปรับแต่ง URL ให้สื่อความหมายของแต่ละหน้า

  1. การสร้าง Backlink

สร้างความน่าเชื่อถือด้วยลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเข้าถึงของเว็บไซต์บน Search Engine ได้เป็นอย่างดี

  1. การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งาน (User Experience)

สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เช่น การปรับปรุงความเร็วโหลดของเว็บไซต์ การปรับแต่งเว็บให้ด้วยการ Responsive ไปกับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

  1. การติดตามและวิเคราะห์ผล (Tracking and Analysis)

ติดตามและวิเคราะห์ผลการทำ SEO เพื่อให้คุณสามารถวัดและปรับปรุงกลยุทธ์การทำ SEO ของคุณได้

  1. การปรับแต่งการใช้งานคีย์เวิร์ด (Keyword Optimization)

ใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา, URL, และการตั้งชื่อรูปภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง

  1. การเพิ่มประสิทธิภาพของรูปภาพ (Image Optimization)

ปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสมและใช้แท็ก Alt + คีย์เวิร์ด เพื่อให้เว็บไซต์มีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาของรูปภาพมากยิ่งขึ้น

  1. การสร้างและแชร์เนื้อหาที่น่าสนใจ (Content Creation and Sharing)

สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้อ่าน และสร้างความน่าสนใจในเว็บไซต์ของคุณ และแชร์เนื้อหาจากเว็บไซต์ไปบนโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มอื่นๆ

  1. การใช้งานโครงสร้างข้อมูล (Structured Data Markup)

เพิ่มข้อมูลด้วยเมนูเพิ่มเติมในเว็บไซต์ เช่น รีวิวผลิตภัณฑ์, ข้อมูลสถานที่, หรือราคาสินค้า เพื่อช่วยให้ Search Engine เข้าใจและแสดงข้อมูลนั้นได้

  1. ติดตามความก้าวหน้า (Progress Tracking)

ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการทำ SEO โดยการวัดค่าเชิงปริมาณ เช่น การเข้าชมเว็บไซต์, อัตราคลิก และตำแหน่งในผลการค้นหา รวมถึงวัดค่าเชิงคุณภาพ

  1. การปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ (Website Performance Optimization)

ปรับปรุงความเร็วโหลดของเว็บไซต์, ปรับแต่งรูปแบบการใช้งานบนเว็บ และแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีกับเว็บไซต์ของคุณ

  1. การสร้างความน่าเชื่อถือ (Authority Building)

สร้างความเชื่อถือและความเป็นเอกลักษณ์ของเว็บไซต์ ผ่านการแบ่งปันเนื้อหาในช่องทางออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง การเข้าร่วมกลุ่มสังคมออนไลน์ และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน

  1. การปรับแต่งการใช้งานโซเชียลมีเดีย (Social Media Optimization)

ปรับปรุงโปรไฟล์โซเชียลมีเดียของคุณ และแชร์เนื้อหาที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มการเชื่อมโยงเข้ากับเว็บไซต์ของคุณ

การทำ SEO นั้นต้องใช้ความอดทนและระยะเวลา ในการเสริมสร้างเนื้อหาและความน่าสนใจบนเว็บไซต์

รวมถึงการปรับปรุงตามผลวิเคราะห์ ผู้ที่ทำ SEO  ต้องหมั่นศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเทรนด์และการอัปเดตในการทำ SEO เพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงการทำ SEO อย่างต่อเนื่อง

Comments are closed.